หม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงถือเป็นหัวใจสำคัญในการจ่ายไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องให้กับพื้นที่ที่ต้องมีการใช้กำลังไฟเยอะ ๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจ และแหล่งชุมชนต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้การบำรุงรักษาหม้อแปลงอย่างสม่ำเสมอนอกจากช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้นแล้ว ยังมีส่วนสำคัญต่อการลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตได้อย่างมหาศาล จึงอยากนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการดูแลรักษาหม้อแปลง พร้อมคำแนะนำที่สามารถใช้ปฏิบัติได้จริงมาบอกต่อ
ทำไมการบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงจึงสำคัญ?
1. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบไฟฟ้าให้เป็นปกติ
การบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงที่ดีทำให้หม้อแปลงสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การจ่ายกระแสไฟฟ้ามีความต่อเนื่อง ไม่สะดุดขาดตอน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนได้
2. ยืดอายุการใช้งานหม้อแปลง
การตรวจเช็กและดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอมีส่วนสำคัญอย่างมากในการยืดอายุใช้งานของหม้อแปลงให้เพิ่มขึ้นจากเดิมได้อีกหลายปี ไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหม้อแปลงใหม่บ่อย ๆ ด้วย
3. ป้องกันความเสียหายรุนแรง
ความเสียหายที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรไปจนถึงการขัดข้องของอุปกรณ์ต่าง ๆ มักมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้มีปัญหาใหญ่ตามมาภายหลัง ซึ่งอาจสร้างความรุนแรงแบบคาดไม่ถึงได้
4. ความปลอดภัยของผู้คนและชุมชน
อย่างที่อธิบายไปว่าส่วนใหญ่หม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงมักตั้งอยู่บริเวณโรงงาน หรือชุมชน ดังนั้นหม้อแปลงที่ได้รับการดูแลอย่างดีจึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับทั้งบุคคลและชุมชนได้ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้ หรือไฟดูด
5. ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมฉุกเฉิน
การซ่อมแซมฉุกเฉิน เช่น เรียกช่างให้เข้ามาเปลี่ยนอุปกรณ์แบบเร่งด่วน มักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการดูแลตามรอบระยะเวลาปกติ การบำรุงรักษาเชิงป้องกันจึงช่วยลดความจำเป็นในการซ่อมแซมเร่งด่วน ลดค่าใช้จ่าย ประหยัดเงินในกระเป๋ามากขึ้น
รายการการบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงที่ควรทำ
1. การตรวจเช็กสภาพภายนอก (Visual Inspection)
– ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำมัน
– ตรวจสอบสภาพบูชชิ่ง (Bushings) และขั้วต่อสายไฟ
– ตรวจดูคราบสนิม ความสกปรก และสิ่งกีดขวางบริเวณหม้อแปลง
2. การบำรุงรักษาน้ำมันหม้อแปลง
– การกรองน้ำมัน (Oil Filtration) ต้องทำเป็นประจำทุกปีเพื่อลดสิ่งสกปรกและความชื้น
– การเปลี่ยนน้ำมัน (Oil Replacement) ต้องเปลี่ยนน้ำมันใหม่ทุก 1-2 ปี หรือเปลี่ยนตามผลการทดสอบที่เกิดขึ้น
3. การตรวจสอบซีนและปะเก็น (Seals and Gaskets)
– ตรวจสอบซีนว่ามีการเสื่อมสภาพหรือรั่วซึมหรือไม่
– เปลี่ยนปะเก็นและซีนที่ชำรุดเพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำมัน
4. การทดสอบความต้านทานฉนวน (Insulation Resistance Test)
– ตรวจสอบฉนวนเพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่วไหล
– ควรทดสอบอย่างน้อยปีละครั้ง
5. การตรวจสอบระบบป้องกันและรีเลย์ (Protection Systems)
– ทดสอบการทำงานของ Buchholz Relay, Pressure Relay และ Temperature Relay
– ตรวจสอบผลว่าระบบป้องกันสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง
การดูแลหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงเป็นอีกขั้นตอนที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย พร้อมช่วยลดค่าใช้จ่าย ป้องกันความเสียหายทั้งกับบุคคลและชุมชนที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งทาง Triple A ของเรา นอกจากเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงแล้ว ยังมีบริการซ่อมแซม ตรวจเช็กหม้อแปลงทุกขนาด ทุกยี่ห้อ ทุกระบบ พร้อมมีหม้อแปลงสำรองให้ใช้ระหว่างซ่อม รับเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน กรองน้ำมันหม้อแปลงโดยทีมงานมืออาชีพ เครื่องมือทันสมัย ราคาจับต้องได้ ตอบโจทย์ความคุ้มค่าอย่างแน่นอน